วิธีชาร์จแบตรถยนต์ไฟฟ้า

“แบตเตอรี่” คือหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนรถยนต์ไฟฟ้า จากรถน้ำมันที่แบตฯ แค่ช่วยสตาร์ท สู่รถ EV ที่แบตกลายมาเป็นแหล่งพลังงานสำหรับการขับเคลื่อน การบำรุงรักษาในส่วนนี้ รวมถึงวิธีชาร์จแบตรถยนต์ไฟฟ้าอย่างถูกต้องเป็นการช่วยยืดอายุการใช้งานแบตรถไฟฟ้าให้มากขึ้น ใช้งานได้นานขึ้น เสื่อมสภาพช้าลง

การชาร์จแบตรถไฟฟ้ามีกี่แบบ วิธีชาร์จแบตรถยนต์ไฟฟ้าที่ถูกต้อง มีทั้งหมด 2 แบบ

1. ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบ AC
การชาร์จช้าที่นิยมเรียกกันเป็นแบบระบบ AC ย่อมาจากคำว่า Alternating current charge คือ การชาร์จแบตเตอรี่แบบธรรมดาด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ (ไม่มีขั้วบวกหรือลบ) จากตัว Wallbox เข้าไปยัง On board charger ในตัวรถ จากนั้นจะทำการแปลงกระแสไฟฟ้าเป็นสายตรง จ่ายไฟไปยังแบตเตอรี่รถไฟฟ้า EV โดยจะใช้ระยะเวลาในการชาร์จแบตประมาณ 4-7 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับขนาดแบตรถไฟฟ้า และรุ่นรถไฟฟ้า การชาร์จแบตแบบนี้ เหมาะสำหรับการชาร์จในพื้นที่ที่สามารถจอดรถชาร์จได้เป็นเวลานาน เช่น เครื่องชาร์จที่บ้าน ที่สำนักงาน เป็นต้น

2. ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบ DC
ชาร์จไวต้องแบบ DC การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าระบบ DC ย่อมาจากคำว่า Direct current charge เป็นการชาร์จแบตรถไฟฟ้าที่ถูกพัฒนามาจากระบบ AC แต่การจะเป็นการชาร์จไฟด้วยกระแสไฟตรงเข้าสู่แบตเตอรี่รถไฟฟ้า EV ทันที ไม่ถูกส่งเข้าไปยัง On board charger ในตัวรถ ซึ่งจะใช้เวลาในการชาร์จ จาก 0-80% ในเวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับขนาดของแบตและรุ่นรถยนต์ไฟฟ้าด้วยเช่นกัน เหมาะสำหรับการชาร์จแบตในช่วงเวลาเร่งด่วน เช่น การจอดชาร์จตามสถานีชาร์จรถไฟฟ้าในปั๊มน้ำมัน หรือการจอดแวะพักรถตามสถานีชาร์จรถไฟฟ้าต่าง ๆ เป็นต้น

วิธีชาร์จแบตรถยนต์ไฟฟ้าที่ถูกต้อง

1. รู้ว่าเมื่อไหร่ควรชาร์จและหยุดชาร์จแบต
ตามปกติแล้วแบตเตอรี่รถไฟฟ้า EV จะทำงานได้ดีที่สุด และจะมีอายุการใช้งานยาวนานที่สุด เมื่อรักษาช่วงการชาร์จอยู่ที่ 20-80% ซึ่งการทำแบบนี้จะช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่รถไฟฟ้าได้ดีมาก ๆ พูดง่าย ๆ คืออย่าใช้แบตรถจนเหลือน้อย หรือชาร์ตจนเต็มบ่อยเกินไป

2. ชาร์จเป็นประจำ แต่ไม่ควรบ่อยเกินไป
หลายคนอาจไม่รู้มาก่อนว่าแบตเตอรี่รถไฟฟ้าส่วนใหญ่ มี “ข้อจำกัด” และมีรอบการชาร์จ หมายความว่าในแต่ละครั้งที่ทำการชาร์จแบต อายุการใช้งานและความสามารถในการชาร์จแบตรถไฟฟ้า ‘อาจ’ ลดลงเล็กน้อย

ดังนั้นวิธีชาร์จแบตรถยนต์ไฟฟ้าที่เหมาะสม คือ ไม่ควรชาร์จแบตบ่อยเกินไป หรือชาร์จทิ้งไว้ข้ามคืน นอกจากนี้ยังไม่ควรปล่อยให้แบตเตอรี่รถไฟฟ้า EV เปอร์เซ็นต์ต่ำกว่าหรือเกือบ 0% บ่อย ๆ เพราะอาจส่งผลต่ออายุการใช้งานแบตเตอรี่

3. หลีกเลี่ยงการชาร์จระบบ DC ในอุณหภูมิสูง
การตัดสินใจชาร์จแบตเตอรี่รถไฟฟ้าไม่กี่นาที โดยไม่รอให้แบตรถไฟฟ้าได้ชาร์จอย่างเพียงพอ ในขณะอุณหภูมิสูงมากหรือต่ำมาก อาจส่งผลต่อความจุของแบตรถไฟฟ้าในระยะยาว โดยการเร่งปฏิกิริยาเคมีภายในและทำให้ชุดแบตเตอรี่ร้อนขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจส่งผลให้แบตเสื่อมสภาพเร็วขึ้น