จุดบอดที่ว่ามีด้วยกัน 5 ตำแหน่ง อยู่ตรงไหนกันบ้าง
- จุดบอดจาก “เสาเอ” พูดให้เข้าใจง่าย ๆ “เสาเอ” ก็คือเสาที่ติดตั้งกระจกคู่หน้านั่นแหละครับ คือความที่เสาเอมันหนาพอมาอยู่ด้านข้างสายตาเวลาขับรถ ก็มักบังวิสัยทัศน์ จนทำให้เรามองไม่เห็นรถที่สวนมาจากข้าง ๆ บางทีก็ทำให้เกิดปัญหาการเลี้ยว หรือการกลับรถอีกด้วยครับ
- วิธีแก้ เราไม่ควรปรับเบาะนั่งคนขับให้สูงมากเกินไป กะง่าย ๆ ให้หัวเราห่างกับเพดานห้องโดยสารซัก 6 นิ้ว ถือว่าโอเค ส่วนเวลาเลี้ยวกลับรถลองโยกหัว หรือเอียงมาข้างหน้าเอาให้เห็นทางชัด ๆ แบบนี้ก็ง่ายดีครับ
- จุดบอดจาก “กระจกมองข้าง” อันนี้ถือเป็นจุดอับที่อยู่นอกเหนือองศาการมองเห็นของกระจกหลังที่เราปรับไว้ โดยมากจะเป็นบริเวณที่ห่างตัวรถในจังหวะเกือบจะตีคู่กับรถของเราเลยละครับ
- วิธีแก้ ควรปรับท่านั่งขับของเราให้อยู่ในท่าถนัดที่สุด ท่องเอาไว้เลยว่าต้องท่าที่มองจุดต่าง ๆ หรือควบคุมรถได้อย่างแม่นยำฉับไว แล้วค่อยปรับกระจกมองข้างให้เห็นทั้งตัวรถด้านข้าง พื้นถนน และเส้นแบ่งเลนได้อย่างดี ระดับการมองต้องไม่สูงเกินไป ชนิดที่ต้องหันตัวเอี้ยวไปมองฝั่งใด ฝั่งหนึ่งจนมากไปครับ
- จุดบอดจาก “กระจกหลัง” นี่คือจุดที่น้อยคนนักจะให้ความสำคัญครับ เพราะส่วนใหญ่จะหันไปใช้กระจกมองข้างด้านซ้ายเป็นหลัก หนักกว่านั้นคือบางคนเอาตุ๊กตาบ้าง หมอนบ้าง ไปวางหลังรถจนมองกระจกหลังแทบไม่เห็นอะไร แทนที่จะได้ใช้ดูตอนเปลี่ยนเลน ถอยรถ หรือแซงหน้ารถคันอื่น จำไว้ว่าการมองเห็นหน้าต่างทั้งบ้านด้านหลัง ช่วยเพิ่มมุมมองในการขับให้ดียิ่งขึ้นครับ
- วิธีแก้ ก็แค่ปรับองศาของกระจกมองหลังใหม่ จะให้ดีต้องไม่ให้เห็นหัวคนขับ เน้นเห็นมุมด้านหลังทั้งหมด เพราะการมองทางด้วยกระจกมองหลังช่วยให้เรากะระยะแม่นยำกว่ากระจกมองข้าง แต่ก่อนเปลี่ยนเลน หรือแซง ก็ต้องมองรถคันอื่นให้ดี เพราะอาจมีรถที่อยู่ในจุดบอดจุดอับอื่น ๆ ได้ครับ
- จุดบอดจาก “รถคันอื่นที่ใหญ่กว่า” อันนี้น่ากลัวนะครับ เพราะจุดบอดที่เกิดจากรถที่สูง หรือใหญ่กว่าเราอย่าง สิบล้อ รถเมล์ หรือรถพ่วง ไม่ต่างกับยักษ์ที่บังตาเราซะมิด แถมการจะแซงรถพวกนี้ ระยะถนนที่ใช้ต้องยาวพอ และเราต้องเห็นทางข้างหน้าชัด ๆ เช็กรถที่สวนมาเอาให้ชัวร์ก่อนแซงครับ
- วิธีแก้ ควรขับให้เว้นระยะให้มากที่สุด กะเอาจากที่เรามองเห็นเลนที่รถสวนได้อย่างชัดเจน ถ้าแซงได้ก็รีบทำ แต่อย่าได้คิดแซงซ้ายเชียวนะอันตรายสุด ๆ เพราะจุดบอดของพวกพี่เค้าคือฝั่งซ้าย เพราะคนขับรถใหญ่ส่วนมักจะมองไม่เห็นนั่นเองครับ
- จุดบอดจาก “สภาพเส้นทาง” ถือว่าเป็นจุดบอด จุดอับที่ไร้การคาดเดาครับ นั่นก็เพราะสภาพพื้นถนนที่บางที เป็นหลุม ขรุขระ ทางโค้ง ทางลาดขึ้น หรือทางลงเนิน รวมทั้งสภาพอากาศก็ทำให้เกิดปัญหาได้ครับ
- วิธีแก้ อย่างทางไหนที่เราไม่ชิน หรือเคยมาครั้งแรก หัดสังเกตป้ายเตือนจราจรที่บอกอย่างเคร่งครัด เพิ่มความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น อย่าใช้ความเร็วเกินจำเป็น หรือถ้าต้องขับช่วงกลางคืนต้องใช้สัญญาณไฟช่วย เพื่อให้รถคันอื่นเห็นเราได้ง่ายขึ้นครับ