แม้จะมีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อย แต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้ ซึ่งถ้าหากเกิดขึ้นกับตัวเรา จะมีวิธีช่วยเหลือตัวเองจากสถานการณ์นั้นให้ปลอดภัยได้อย่างไร
1. ตั้งสติเมื่อรถตกลงไปในน้ำ รถจะยังไม่จมลงในทันที แต่จะค่อย ๆ จมลง ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาวิกฤต ทุกอย่างจะเกิดขึ้นเร็วมาก ดังนั้นควรตั้งสติให้ดี อย่ามัวแต่ตื่นตกใจ
2. ปลดเข็มขัดนิรภัยจากนั้นให้รีบปลดเข็มขัดนิรภัยออกทันที หากมีเด็กนั่งมาในรถด้วย ให้ปลดเข็มขัดนิรภัยของเด็กออกก่อน แล้วค่อยช่วยเหลือคนอื่น
3. รีบเปิดกระจกรถควรรีบเปิดกระจกรถให้เร็วที่สุด ส่วนใหญ่เมื่อรถจะจมน้ำ ระบบไฟฟ้าของรถจะยังทำงานได้อยู่ประมาณ 5 นาที กระจกรถยนต์ไฟฟ้าจึงยังสามารถทำงานได้อยู่ แต่ถ้าไม่สามารถเปิดกระจกได้แล้ว ให้หาอะไรทุบกระจกด้านข้างให้แตก หรือถอดพนักพิงศีรษะออก แล้วใช้ก้านเหล็กมากระแทกที่ร่องกระจกด้านข้าง ตอกเข้าไปประมาณ 1 นิ้ว แล้วออกแรงงัดเข้าหาตัว กระจกจะแตกออกทั้งบาน
4. พยายามเปิดประตูรถออก เมื่อความดันในรถเท่ากันแล้วเมื่อรถจมน้ำ ประตูจะไม่สามารถเปิดได้ในทันที เพราะแรงดันทั้งภายในและภายนอกยังไม่เท่ากัน ต้องรอให้น้ำไหลเข้ามาในรถครึ่งคันหรือจนเกือบมิดหลังคา จะทำให้ประตูรถเปิดออกได้ง่ายกว่าตอนแรก เมื่อเปิดประตูรถออกมาได้แล้ว ให้รีบพุ่งตัวออกจากรถทันที แต่การหนีทางประตูรถยนต์จะค่อนข้างยากกว่าการออกทางหน้าต่างรถ นอกจากนี้หากประตูรถเปิดแล้ว อาจทำให้น้ำไหลเข้ามาและทำให้รถจมเร็วขึ้น
5. พกอุปกรณ์ที่ทำให้กระจกรถแตกควรพกอุปกรณ์ฉุกเฉินที่ช่วยทำให้กระจกรถแตกออกได้ง่าย เช่น ค้อนนิรภัย เป็นต้น โดยควรเลือกทุบกระจกด้านข้าง มากกว่ากระจกหน้าหรือกระจกหลังที่เป็นกระจกนิรภัยซึ่งแตกยากกว่ากระจกข้าง
6. ว่ายน้ำออกจากตัวรถให้เร็วที่สุดเมื่อหาทางออกจากตัวรถที่กำลังจมน้ำได้แล้ว ให้รีบว่ายน้ำออกห่างจากตัวรถให้มากที่สุด แต่หากไม่รู้ว่าอยู่ทิศใดในกระแสน้ำ ให้ปล่อยตัวตามธรรมชาติให้ตัวลอยขึ้นมาเอง หรืออาจดูจากฟองอากาศว่าลอยตัวไปทางทิศไหน แล้วว่ายน้ำตามไปทางนั้น