หลายคนคงไม่ได้สังเกตว่าไฟรถที่ตัวเองขับเป็นประจำทุกวันนั้น มีดวงไหนติดทำงานปกติ หรือไม่ติดบ้าง เราจึงขอแนะนำวิธีตรวจเช็คไฟเลี้ยว-ไฟเบรคง่าย ๆ ด้วยตัวเองได้มาบอกกัน
การตรวจสอบ ไฟเลี้ยว ว่ามีดวงใดดวงหนึ่งขาดดับไปหรือไม่นั้น ให้สังเกตอาการกระพริบของไฟที่หน้าปัดเมื่อเปิดไฟเลี้ยว หากพบว่ามีลักษณะถี่รัวแตกต่างกันระหว่างซ้ายและขวา ก็เป็นอันรู้ได้ทันทีว่า ข้างที่กระพริบถี่รัวเร็วกว่านั้น มีหลอดไฟตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งขาดดับไป เพื่อความแน่ใจก็ให้เปิดไฟเลี้ยวด้านที่สงสัยค้างไว้ แล้วเดินลงมาตรวจดูด้วยตนเอง เมื่อพบแล้วก็จัดการเปลี่ยนหลอดไฟใหม่ โดยต้องใช้หลอดที่มีจำนวนวัตต์เท่ากันกับของเดิมที่ขาดไป
ส่วนการตรวจสอบ ไฟเบรค ว่ายังติดสว่างขึ้นมาเมื่อเหยียบเบรคทุกครั้งหรือไม่ ทำได้โดยเมื่อนำรถเข้าจอดในโรงจอดรถในบ้าน ให้เหยียบเบรคค้างไว้ แล้วดูแสงสะท้อนจากความสว่างของไฟเบรกค หากด้านหลังรถเป็นผนังหรือกำแพงก็จะสังเกตได้ง่าย ว่ามีแสงสะท้อนไปกระทบผนังหรือกำแพงสว่างเท่ากันหรือไม่ หากด้านหลังของรถเป็นที่โล่ง ก็ให้สังเกตจากแสงสว่างของไฟเบรคที่ตกกระทบพื้นถนน ซึ่งกรณีนี้อาจจะต้องทดสอบเมื่อมีแสงภายนอกน้อย ๆ หรือตอนช่วงที่พระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว หากพบว่าด้านใดด้านหนึ่งมีแสงสะท้อนน้อยกว่า ก็แสดงว่าไฟเบรคด้านนั้นขาด หรืออาจจะชำรุด ทำให้มีความสว่างน้อยเกินกว่าอีกด้านหนึ่ง ควรรีบเปลี่ยนทันที เพราะไฟเบรคที่สว่างน้อยเกินไป จนไม่เพียงพอต่อการให้ผู้อื่นเห็นได้ชัดเจน หรือไฟเบรคที่ไม่ติดขึ้นมาเมื่อมีการเหยียบเบรค จะทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นมาได้
เราควรหมั่นสังเกตไฟรถเป็นประจำ โดยเฉพาะถ้าต้องมีการเดินทางช่วงกลางคืน ระบบไฟต่าง ๆ ของรถจะช่วยให้ปลอดภัยในการเดินทางมากขึ้น